เมื่อเวลา 18.30 น.วันที่ 2 พ.ย. พ.ต.ท.สืบศักดิ์ ภาษยะวรรณ พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ สน.วิภาวดี รับแจ้งเหตุคนตกจากทางด่วนโทลล์เวย์ บริเวณช่วงทางลงถนนงามวงศ์วาน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร จึงพร้อมกำลังไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ บริเวณกลางสี่แยกบางเขน ติดกับป้อมจราจรกลางสี่แยก พบศพนายเสน่ห์ น้ำแก้ว อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตจมกองเลือดในชุดเสื้อยืดสีเหลือง ทับด้วยเสื้อแจ็กเก็ตสีครีม กางเกงขายาวสีดำ โดยมีหมวกกันแบบน็อกเต็มใบตกอยู่ข้างๆ และกระเป๋าใส่สัมภาระส่วนตัวตกกระจายอยู่ สภาพศพแขนขาหัก ศีรษะแตก มีเลือดออกทางจมูกและหู
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ขึ้นไปตรวจสอบบนทางด่วนโทลล์เวย์ ตรงจุดที่คาดว่าผู้ตายตกลงมา ซึ่งอยู่บริเวณช่วงทางโค้งลงหน้าเรือนจำคลองเปรม พบรถจักรยานยนต์ฮอนด้า คลิ๊ก สีน้ำเงิน ทะเบียน สธธ 277 กรุงเทพฯ จอดอยู่ชิดขอบทางในลักษณะปกติบนขาตั้ง แต่เบาะนั่งหลุดออกจากตัวรถตกอยู่บนพื้นถนนใกล้ๆ กับตัวรถ ภายในช่องเก็บของใต้เบาะพบถุงยาหลายชนิดของ รพ.เกษมราษฎร์ รัตนาธิเบศร์ ทั้งยาลดไข้ ยาแก้อักเสบ และยาแก้ผื่นคัน เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ขณะที่ ก่อนเริ่มการแสดงคอนเสิร์ต มีฝนตกลงมาอย่างหนัก ทำให้การแสดงบนเวทีเริ่มล่าช้ากว่ากำหนดท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด โดยมีแฟนเพลงทยอยเดินทางชมการแสดงของศิลปินขวัญใจไทยจำนวนมาก
จนกระทั่งถึงเวลาเปิดการแสดงเริ่มด้วยศิลปิน วงมอคค่า การ์เด้น ติ๊ก ชีโร่ และแฟชั่นโชว์เซ็กซี่จากนางแบบต่างประเทศ จากนั้นเป็นการแสดงคอนเสิร์ตของร็อกเกอร์คนดัง ในช่วงเวลา 19. 49 น
มีรายงานอีกว่า หลังจากศิลปิน เสก-โลโซ ขึ้นเวทีเปิดการแสดง ได้มีกลุ่มวัยรุ่นเด็กช่างกล ประมาณ 40-50คน จับกลุ่มยกพวกตีกัน ที่บริเวณหน้าอินดอร์ สเตเดี้ยม ติดกับสนามกีฬาราชมังคลากีฬาสถาน แต่โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัย เข้าไปควบคุมสถานการณ์ระงับเหตุ พร้อมปิดทางเข้าออกสนามกีฬาชั่วคราว เพื่อความปลอดภัย พร้อมควมคุมตัวผู้ก่อเหตุบางส่วนไปสอบสวนที่ สน.หัวหมาก กระทั่งทุกเป็นอย่างปกติ จึงปล่อยให้ผู้ชมเข้าดูคอนเสิร์ตได้อีกครั้ง.
จากกรณี นายรุ่งรดิศ บัวบาง อายุ 51 ปี ถูกคนร้ายฆาตกรรมอย่างเหี้ยมโหด ด้วยการห่าแล้วหั่นศพแยกเป็น 5 ส่วน ก่อนเอาอวัยวะทั้งหมดดยนทิ้งร่องน้ำในคลองชลประทาน หลังโรงเรียนเทศบาล 1 อ.เมือง จ.จันทบุรี ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสืบสวนไล่ล่าตัว
ล่าสุด มีรายงานว่า ตำรวจสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุเหี้ยมรายนี้ได้แล้วคือ นายยศ จันทร์แก้ว อายุ 61 ปี ซึ่งมีศักดิ์เป็นน้าชายของผู้ ตายเอง โดยเบื้องต้นให้การว่า ก่อนเกิดเหตุได้นั่งดื่มสุรากับผู้ตายที่เป็นหลานชาย แต่ปรากฎว่าพอเมาได้ที่ผู้ตายกลับมาทวงเงินที่ตนติดหนี้ไว้ ทำให้มิตรภาพกลายเป็นศัตรูขึ้นมาทันที ก่อนที่ทั้งคู่จะชกต่อยกันจนบาดเจ็บ แต่ด้วยความแก่ชราทำให้นายยศสู้ไม่ได้ จากนั้นยังผูกใจเจ็บอยู่ อาศัยช่วงผู้ตายเผลอหลับคว้าค้อนปอนด์เหวี่ยงทุบศีรษะแบบไม่ยั้งจนเสียชีวิตคาที่ ก่อนจะใช้มีดหั่นศพเป็นท่อนๆแล้วโยนทิ้งร่องน้ำดังกล่าว
โดยตลอดการควบคุมตัวนั้น นายยศมีอาการเบลอและหวาดระแวงตลอดเวลา ซึ่งตรงกับที่ครอบครัวเคยแจ้งว่าเจ้าตัวมีอาการทางประสาทด้วย ส่วนรายละเอียดทั้งหมดจะแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ รวมทั้งทำแผนประกอบคำรับภาพในวันที่ี 3 พ.ย.
